รีวิวหนัง The Invisible Man (2020) มนุษย์ล่องหน

ข้อมูลหนัง

ประเภทหนัง:  จิตวิทยา, ลึกลับ, สยองขวัญ, ไซ-ไฟ และดรามา

ผู้กำกับ:  Leigh Whannell

นักเขียน:  Leigh Whannell และ H.G. Wells

นักแสดงนำ:  Elisabeth Moss, Oliver Jackson-Cohen และ Harriet Dyer

เรื่องย่อ

The Invisible Man (2020) มนุษย์ล่องหน บอกเล่าเรื่องราวของเซซิเลีย แคส ที่ติดอยู่ในความสัมพันธ์ที่รุนแรงและควบคุมกับเอเดรียน กริฟฟิน วิศวกรด้านออปติกและนักธุรกิจผู้มั่งคั่ง ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของบริษัท Cobalt ซึ่งเป็นบริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยีเสริมประสิทธิภาพมนุษย์และคอมพิวเตอร์ คืนหนึ่ง เซซิเลียวางยาไดอะซีแพมให้เอเดรียน และหนีออกจากบ้านที่มีระบบรักษาความปลอดภัยสูงของเขาด้วยความช่วยเหลือของเอมิลี่ น้องสาวของเธอ ดูหนังเกาหลี ภาพคมชัด ไม่มีโฆษณาคั่น รับชมหนังฟรี ตลอด 24 ชม.

 

เซซิเลียซ่อนตัวอยู่กับเพื่อนสมัยเด็กของเธอ นักสืบตำรวจซานฟรานซิสโกเจมส์ ลาเนียร์ และซิดนีย์ ลูกสาววัยรุ่นของเขา สองสัปดาห์หลังจากที่เซซิเลียหลบหนี เอเดรียนก็ดูเหมือนจะฆ่าตัวตายและทิ้งเงิน 5 ล้านเหรียญของเธอไว้ ทอม พี่ชายที่เป็นทนายความของเขาเป็นคนจัดการเรื่องต่างๆ เซซิเลียสงสัยว่ามีคนอื่นอยู่ในบ้านหลังจากเกิดเหตุการณ์แปลกๆ หลายครั้ง แต่เจมส์รับรองกับเธอว่าเธอแค่ตกใจกลัวและหวาดระแวง ในระหว่างการสัมภาษณ์งาน เธอพบว่าเอกสารในแฟ้มผลงานของเธอถูกถอดออก จากนั้นเธอก็เป็นลม แพทย์บอกว่าพบไดอะซีแพมในระดับสูงในร่างกายของเธอ ในห้องน้ำของเธอ เธอพบขวดไดอะซีแพมเปื้อนเลือดขวดเดียวกับที่เธอใช้วางยาเอเดรียน

 

เซซิเลียและเจมส์ไปพบกับทอม เธอเชื่อว่าเอเดรียนแกล้งตายและใช้ความเชี่ยวชาญด้านการมองเห็นของเขาล่องหนเพื่อทรมานเธอ แต่ความคิดนี้ถูกปฏิเสธ ในเวลาต่อมา พลังที่มองไม่เห็นโจมตีซิดนีย์ ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นเซซิเลีย ในขณะที่อยู่คนเดียวที่บ้าน เซซิเลียพยายามใช้กลวิธีต่างๆ เพื่อจับร่างที่เธอเชื่อว่าโจมตีซิดนีย์ เธอพบโทรศัพท์ของเอเดรียนในห้องใต้หลังคา ซึ่งเธอได้รับข้อความว่าเซอร์ไพรส์ทันที เซซิเลียเทสีลงบนประตูกับดักห้องใต้หลังคา ทำให้ร่างที่มองไม่เห็นถูกเคลือบ การต่อสู้อย่างรุนแรงเกิดขึ้น แต่เซซิเลียหนีออกมาได้ เธอไปที่บ้านของเอเดรียนเพื่อตรวจสอบห้องแล็บของเขา ซึ่งเธอพบชุดรัดรูปล่องหนอีกชุดหนึ่ง ซึ่งยืนยันความสงสัยของเธอ ทันทีที่เธอซ่อนชุดไว้ในตู้เสื้อผ้าในห้องนอนเดิม ร่างที่ล่องหนก็โจมตีอีกครั้ง ดังนั้นเธอจึงหนีและติดต่อกับเอมีลี่ ทั้งคู่พบกันที่ร้านอาหาร โดยมีร่างล่องหนกรีดคอของเอมิลีและวางมีดไว้ในมือของซีซิเลีย เพื่อใส่ร้ายว่าเธอเป็นฆาตกร

 

ระหว่างรอการพิจารณาคดี เซซิเลียถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลจิตเวช ซึ่งเธอได้รู้ว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ ทอมเสนอที่จะยกเลิกข้อกล่าวหาของเธอหากเธอตกลงที่จะกลับไปหาเขา และเลี้ยงดูเด็ก ซึ่งนัยว่าทอมช่วยจัดฉากการฆ่าตัวตายของพี่ชายเขา เขาเปิดเผยว่าเอเดรียนได้ดัดแปลงยาคุมกำเนิดของเธอเพื่อทำให้เธอตั้งครรภ์ เซซิเลียปฏิเสธข้อเสนอและขโมยปากกาหมึกซึมจากเขา คืนนั้น เธอพยายามฆ่าตัวตายและล่อร่างล่องหนออกมา เมื่อมีร่างปริศนาพยายามหยุดเธอ เธอก็แทงเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยปากกา ทำให้ชุดทำงานผิดปกติ ทีมรักษาความปลอดภัยมาถึง แต่ร่างนั้นทำให้พวกเขาไร้ความสามารถก่อนจะหลบหนีออกจากโรงพยาบาล โดยมีเซซิเลียไล่ตาม เพื่อปกป้องลูกในท้องของเธอ ร่างนั้นกลับขู่ว่าจะโจมตีคนที่เธอรัก เซซิเลียรีบวิ่งไปที่บ้านของเจมส์และพบว่าร่างนั้นกำลังโจมตีเขาและซิดนีย์ เธอจึงยิงร่างนั้นจนตาย แต่กลับพบทอมอยู่ในชุด ตำรวจบุกเข้าไปในบ้านของเอเดรียนและพบว่าเขายังมีชีวิตอยู่ ถูกมัดไว้ และอ้างว่าทอมจับตัวเขาขังไว้ พวกเขาสรุปว่าทอมก็ฆ่าเอมิลี่ด้วย แต่เซซิเลียเชื่อว่าเอเดรียนตั้งพี่ชายของเขาให้เป็นแพะรับบาปสำหรับอาชญากรรมของเขา

 

เพื่อรับคำสารภาพของเอเดรียน เซซิเลียซึ่งตอนนี้พ้นผิดแล้วไปพบเขาที่บ้านของเขาโดยแอบสวมสายไว้ ขณะที่เจมส์แอบฟังจากที่ห่างออกไปสองสามช่วงตึก เธอตกลงที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์ของพวกเขา แต่ก็ต้องต่อเมื่อเขาสารภาพว่าฆ่าเอมีลี่ เอเดรียนยืนกรานว่าทอมเป็นคนทำ แต่อ้างว่าประสบการณ์นั้นเปลี่ยนทัศนคติของเขาต่อชีวิตและวิธีที่เขาปฏิบัติต่อเธอ หลังจากที่เอเดรียนพูดคำว่า เซอร์ไพรส์ เซซิเลียก็ขอตัว ไม่กี่วินาทีต่อมา กล้องวงจรปิดจับภาพเอเดรียนได้ราวกับว่ากำลังกรีดคอตัวเอง เซซิเลียกลับมาและโทรหา 911 ดูเหมือนเสียใจ อย่างไรก็ตาม เธอจ้องเอเดรียนที่กำลังจะตายอย่างเย็นชาและเยาะเย้ยเขาโดยพูดคำว่า เซอร์ไพรส์ กลับไป เซซิเลียจากไปขณะที่เอเดรียนเสียชีวิตบนพื้น เมื่อเจมส์มาถึง เซซิเลียก็ยืนยันสิ่งที่กล้องจับภาพได้ด้วยการพูดว่า ฉันไม่เป็นไร เขาฆ่าตัวตาย เขากรีดคอตัวเอง เจมส์เห็นชุดล่องหนในกระเป๋าของเธอแต่ก็ยอมให้เธอออกไปโดยแกล้งทำเป็นไม่สังเกตเห็น


 

ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์

ผู้ชายที่ทำร้ายผู้อื่นทำตัวไร้ร่องรอย แต่ความกลัวที่เขาแพร่กระจายนั้นชัดเจนใน The Invisible Man (2020) มนุษย์ล่องหน หนังแนววิทยาศาสตร์สยองขวัญที่ซับซ้อนของ Leigh Whannell ที่กล้าที่จะเปลี่ยนบาดแผลทางจิตใจของผู้หญิงที่มักจะถูกปิดบังจากความสัมพันธ์ที่เป็นพิษให้กลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้อย่างยากจะรับไหว หนังแนวนี้ของ Whannell เต็มไปด้วยความหวาดกลัวทางจิตใจอย่างต่อเนื่องที่เหนือกว่าความเจ็บปวดจากรอยฟกช้ำที่มองเห็นได้ ทำให้ตัวละครหลักอย่าง Cecilia Kass (รับบทโดย Elisabeth Moss) เจ็บปวดมากขึ้นในทุกๆ ครั้ง ทำให้มั่นใจว่าแผลเป็นในจิตใจของเธอจะแสบเหมือนแผลของเรา บางครั้งถึงขั้นทรมานมาก

 

ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำสำเร็จ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสนามเด็กเล่นของ Whannell มีขอบเขตที่กำหนดไว้ภายในทรัพย์สินที่มีอยู่ก่อนซึ่งควรได้รับการดูแลอย่างระมัดระวัง หนังคลาสสิกก่อนรหัสของ James Whale ราวปี 1933 ซึ่งดัดแปลงมาจากนวนิยายปี 1897 ของ HG Wells นั่นคือถ้าเราเรียนรู้อะไรบางอย่างจากการสร้างใหม่ของสตูดิโอที่น่าเบื่อในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะเราอยู่ในยุคของ #MeToo ที่สัตว์ประหลาดที่เคยได้รับการปกป้องในโลกแห่งความเป็นจริงในที่สุดก็ถูกเปิดเผยว่ามันคืออะไร พลังที่น่าสะพรึงกลัวของพวกมันถูกตรวจสอบในหนังที่ยอดเยี่ยมเช่น The Assistant ของ Kitty Green ซึ่งเป็นการปฏิวัติที่ล่าช้ามาอย่างยาวนานที่ไม่ควรถูกทำให้ราคาถูกหรือใช้ในทางที่ผิด โชคดีที่นักเขียน/ผู้กำกับชาวออสเตรเลียผู้อยู่เบื้องหลังแฟรนไชส์เรื่อง Saw และ Insidious ที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม มาพร้อมกับภาพที่สวยงามเพียงพอ The Invisible Man (2020) มนุษย์ล่องหน ชวนให้นึกถึงผลงานชิ้นเอกเรื่อง Zodiac ของเดวิด ฟินเชอร์ ที่ถ่ายทำที่เบย์แอเรีย และคุณภาพอันน่าตื่นตาของ  Terminator 2: Judgment Day ของเจมส์ คาเมรอน ที่น่าขนลุก เมื่อคุณคาดไม่ถึง และยังมีแนวคิดใหม่ๆ ในการสร้าง Universal Movie Monster คลาสสิกที่มีความวิตกกังวลที่เหนือกาลเวลาและทันสมัย ​​และเขาทำเช่นนั้นด้วยวิธีที่คิดมาอย่างดีอย่างน่าประหลาดใจ โดยปรับปรุงสิ่งที่คุ้นเคยด้วยการใช้วิธีการที่สร้างสรรค์ 

 

คงจะไม่เกินเลยหากจะบอกว่าสิ่งที่กรีนให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับผลงานชิ้นเอกของเธอส่วนหนึ่งก็เป็นสิ่งที่เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับ The Invisible Man (2020) มนุษย์ล่องหน นั่นคือการเน้นย้ำอย่างไม่ให้อภัยต่อความรุนแรงทางอารมณ์ที่เกิดจากความเหงาในผู้ถูกทารุณกรรม มีความสม่ำเสมอในฉากที่ตัดต่ออย่างเฉียบคมและน่ากลัวซึ่งถ่ายโดย Stefan Duscio ด้วยการเคลื่อนไหวของกล้องที่สง่างามและชาญฉลาดในห้องนอน ห้องใต้หลังคา ร้านอาหาร และคฤหาสน์อันห่างไกล การเน้นย้ำอย่างระมัดระวังต่อความโดดเดี่ยวของ Cecilia ความโดดเดี่ยวดังกล่าวซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นด้วย ดนตรีประกอบที่โหดร้ายของ Benjamin Wallfisch บังเอิญเป็นมีดที่คมที่สุดของผู้ร้ายที่ซ่อนเร้นเธอ อาวุธร้ายแรงที่คนอื่นปฏิเสธที่จะเห็นและยอมรับ

 

สิ่งหนึ่งที่น่าโล่งใจคือ วานเนลล์ไม่เคยปล่อยให้เราอยู่ในสภาวะสับสนต่อหน้าหนังระทึกขวัญสุดโหดที่แต่งสวยและน่าติดตามของเขา เราเชื่อซีซิเลียอย่างหมดหัวใจ ในขณะที่คนอื่นๆ อาจปฏิเสธอย่างเข้าใจได้ แต่กลับตั้งคำถามถึงความมีสติของเธอแทน และใช่ อย่างน้อยเราในฐานะผู้ชมก็อยู่เคียงข้างเธอ ตั้งแต่ฉากเปิดเรื่องที่ตึงเครียดของหนังเมื่อซีซิเลียตื่นขึ้นมาพร้อมกับจุดประสงค์ที่เก็บงำไว้มานานข้างๆ ศัตรูที่หลับใหลของเธอ แต่ไม่แสดงร่องรอยของความเปราะบางของจูเลีย โรเบิร์ตส์ ให้เห็น แต่เรากลับตรวจพบบางสิ่งที่แข็งแกร่งและเปราะบางในตัวเธอ ซึ่งใกล้ชิดกับซาราห์ คอนเนอร์จาก The Terminator มากขึ้นทางจิตวิญญาณ เมื่อเธอวิ่งหนีในป่าอย่างสุดชีวิตเพื่อหลบหนีเอเดรียน (โอลิเวอร์ แจ็คสัน-โคเฮน) คู่หูผู้โหดร้ายของเธอ และถูกอลิซ (แฮเรียต ไดเออร์) น้องสาวของเธอจับตัวไปหลังจากเผชิญกับอุปสรรคที่ทำให้หัวใจหยุดเต้น และเธอได้หนีไปยังที่พักพิงกับเจมส์ (อัลดิส ฮ็อดจ์) เพื่อนรักในวัยเด็กของเธอ ซึ่งเป็นตำรวจที่มีไหวพริบและอาศัยอยู่กับซิดนีย์ (สตอร์ม รีด) ลูกสาววัยรุ่นของเขา ซึ่งใฝ่ฝันที่จะเข้าเรียนในโรงเรียนออกแบบที่พวกเขาไม่มีเงินจ่าย ติดตามเรื่องราวทั้งหมดของหนังได้ที่ 2umv.com เต็มเรื่อง ไม่มีโฆษณาคั่น ได้ฟรีที่นี่

 

ในที่สุด Cecilia ซึ่งตอนแรกมีอาการกลัวที่โล่งแจ้งก็ได้รับอิสรภาพคืนมาอย่างน้อยก็ในช่วงสั้นๆ เมื่อ Adrian นักวิทยาศาสตร์ผู้มีเงินฆ่าตัวตาย ทำให้ Cecilia มีเงินก้อนโตไว้ใช้ในอนาคตและค่าเรียนที่ Sydney เลือกเรียน แน่นอนว่าถ้าเรื่องดีๆ เกินจริงไป ก็คงจะดีเกินจริง ไม่ว่า Tom พี่ชายของ Adrian (รับบทโดย Michael Dorman) จะอ้างว่าดูแลมรดกและทรัพย์สินของพี่น้องผู้ล่วงลับของเขาอย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้ Cecilia ก็ได้รวบรวมชิ้นส่วนของปริศนาเข้าด้วยกันในไม่ช้า และค้นพบว่า Adrian ได้ประดิษฐ์เกราะล่องหนขึ้นมา ซึ่งเขาจะใช้เป็นเครื่องมือที่ซับซ้อนในการหลอกลวงผู้อื่นเพื่อแก้แค้นอย่างโหดร้าย ซึ่งเป็นความจริงที่เธอไม่สามารถพิสูจน์ให้ใครเห็นได้ จะมีมีดลอยน้ำ ผ้าห่มที่ดึงออก และรอยเท้าที่น่ากลัว คุณอาจกรีดร้องออกมาหนึ่งหรือสองครั้ง

 

ราชินีแห่งยุคสมัยที่ได้รับการรับรองของเหล่านางเอกหน้าจอที่บ้าคลั่ง ลองพิจารณา Her Smell, The Handmaid's Tale, UsและShirley ที่กำลังจะออกฉายร่วมกัน Moss โดดเด่นในฉากน่าขนลุกเหล่านี้ด้วยความมีชีวิตชีวาอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอ ในบทบาทของ Cecilia ผู้ต่อสู้กับอำนาจที่ตรวจจับไม่ได้ซึ่งทำลายชีวิตของเธอและควบคุมความเป็นอยู่ทางจิตใจของเธออย่างชาญฉลาด Moss ยังคงส่งมอบสิ่งที่เราปรารถนาจากตัวละครผู้หญิงต่อไป ความซับซ้อนที่ยุ่งเหยิงแต่แข็งแกร่ง ซึ่งซูเปอร์ฮีโร่หญิงที่คิดขึ้นอย่างไม่จริงจังในปัจจุบันจำนวนมากยังคงขาดอยู่ บทและการกำกับของ Whannell ช่วยให้ Moss มีพื้นที่ในการขยายกล้ามเนื้อที่ซับซ้อนและหลากหลายเหล่านั้น ในขณะที่กระพริบตาให้กับหญิงสาวคนสุดท้ายที่ได้รับพลังสำหรับด้านนี้ของศตวรรษที่ 21 อย่างสบายๆ

 

#TheInvisibleMan  #มนุษย์ล่องหน  #2umv  #รีวิวหนัง  #MovieReview  #MovieSpoilers

 

กลับด้านบน